วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ณัฐรัฐ เลขา จาก Tang-wong ตั้งวง

ณัฐรัฐ เลขา  จาก Tang-wong ตั้งวง  

ประวัติ
       หากความฝันสูงสุดของผู้หญิงไทยทุกยุคทุกสมัย คือการได้ครอบครองมงกุฎในฐานะผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศ ความฝันที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันของคนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ การมีโอกาสได้ขึ้นเวทีการประกวดความงามและพิชิตมงกุฎที่มอบให้แก่สาวงามที่คู่ควรที่สุดบนเวทีนั้น ทว่าแตกต่างกันตรงที่เวทีสำหรับพวกเขา... หรือเธอในกลุ่มหลังนั้น เป็นเวทีนางงาม 'สาวประเภทสอง'
       “
       "นัท" หรือ ณัฐรัฐ เลขา หรือ “ณภัสวรรณ ชลกร” ที่หลายคนต่างคุ้นหูกันดีผู้นี้ เธอสาวประเภทสองที่มีความสวยระดับดีกรีตำแหน่งรองมิสทิฟฟานี อันดับ 2 ปี 2009 ควบด้วยตำแหน่ง นางงามผิวสวยสวย แถมยังสามารถคว้ามงกุฏจากเวทีประกวดต่างๆ กว่า 60 เวที ภายในเวลาเพียง 2 ปี ล่าสุดคว้าตำแหน่ง“มิสเลดี้” สาวประเภทสองที่สวยที่สุดจากเวทีการประกวดดาวเดือน ของมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ประจำปีการศึกษา 2553
      
       ย้อนกลับไปยังเส้นทางสู่เวทีนางงามของนัท เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 19 ปี หลังจากเรียนมัธยมปลายพร้อมกับบวชเรียน กลายเป็นนักธรรมเอกเปรียญ 2 ประโยค ภายในเวลา 4 ปีที่อาศัยอยู่ใต้ร่มผ้ากาสาวพักตร์ ณ จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเกิดของตนเอง ทำให้นัทเข็มแข็ง ตัดสินใจด้วยตนเอง พร้อมกับวางแผนชีวิตในวันข้างหน้า
       “เมื่อก่อนนัทเป็นคนไม่ตั้งใจเรียน เรียนไม่เก่ง ทำอะไรก็ไม่เป็น แต่หลังจากบวช จึงเข้าใจชีวิตที่ต้องดิ้นรน เพราะนัทไม่ได้เกิดมามีครอบครัวที่ครบพ่อแม่ลูก จึงโดนกลั่นแกล้งสารพัดไม่มีใครมาปกป้องเลยคิดว่าถ้าเราไม่เข้มแข็งเราก็อยู่ไม่ได้ นัทจึงฝึกทุกอย่าง มาตั้งใจเรียนจากเด็กเรียนไม่เก่ง เกรดไม่เคยถึง 2.00 ก็มาตั้งใจเรียนตั้งแต่ ม.4 เกรดเฉลี่ยรวม 3.86 รีบเอามาอวดคุณพ่อคุณแม่ พอจบ ม.ปลาย ก็สึกออกมาใส่วิกไปเดินห้างไปสตูดิโอถ่ายรูป เผอิญพนักงานที่ร้านเป็นสาวประเภทสองเป็นนางโชว์ของของพี่หน่องเจ้าแม่บลูไดมอนด์ที่เชียงใหม่ เขาถามว่าสนใจการประกวดมั้ย หนูก็บอกว่าชอบก็เลยได้ประกวด จากนั้น จึงเข้าสู่แวดวงการประกวดความงามของสาวประเภทสองเต็มตัว”
       นัทบอกต่อว่า เธอผ่านเวทีการประกวดมานับไม่ถ้วน ทั้งเวทีการประกวดสาวผู้สวยที่เป็นผู้หญิงแท้ๆ และการประกวดสาวประเภท วิธีที่เธอสามารถเอาชนะใจกรรมการก็คือ ความสามารถและบุคลิกที่ดี กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตัวเองสูง นางงามไม่จำเป็นต้องสวย อย่างเดียว แต่ต้องฉลาดและมีไหวพริบ
       “นัทชอบมองผู้หญิงสวยๆ ไม่ใช่ชอบแบบที่ผู้ชายชอบผู้หญิง แต่ชอบเพราะอยากสวยเหมือนผู้หญิง จึงพยายามหาคนสวย ฉลาด และเป็นตัวอย่างที่ดีมาเป็นต้นแบบ จากนั้นจึงฝึกฝนด้วยตนเอง การประกวดหลายเวทีทำให้เราได้รับประสบการณ์มากมาย เรียนรู้อะไรหลายอย่าง และสิ่งที่ตามมาคือได้พัฒนาตัวเอง นัทจะย้ำกับตัวเองตลอดว่า ถ้าฉันเรียน ถ้าฉันเก่ง ถ้าฉันฉลาด ฉันก็สามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้บนเวทีการประกวดได้อย่างที่ไม่ต้องอายใคร”
       ปัจจุบัน นัทศึกษาอยู่ คณะวิทยาการการจัดการ เอกนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่ท้อถอย ทำให้เธอไม่ลืมที่ทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนในสาขาที่เธอชื่นชอบและถนัดอย่างเต็“นัทอยากทำงานอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับสาขานิเทศศาสตร์ เช่น จำงานครีเอททีฟ ที่ต้องใช้ความคิดอยู่ตลอด ไม่อยากให้ชีวิตต้องวนเหมือนกับวงกลม และที่สคัญนัทเป็นคนชอบวางแผน พรุ่งนี้จะทำอะไร เรียนอะไร มีงานที่ไหน จะมองจุดที่สำคัญๆ ทำให้เราสามารถวางแผนชีวิต กำหนดชีวิตได้ด้วยตัวเอง" มที่ 
       นัทบอกทิ้งท้ายด้วยความภูมิใจในความสำเร็จของตนเองว่า วันนี้เธอสามารถพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า การดำรงชีวิตใน “เพศวิถี” ที่เธอเลือก ซึ่งต่างจาก “เพศสภาพ” ของตัวเองนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ตราบเท่าที่เธอสามารถดูแลตัวเองได้ เรียนได้ดี พร้อมๆกับทำงานพิเศษระหว่างเรียน และส่งรายได้เหล่านี้ให้ที่บ้าน “แม้ว่าเราจะไม่สามารถทำหน้าที่ลูกชายคนโตของครอบครัวได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่เราเป็นลูกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ได้ ไม่แพ้คนอื่น” นัทกล่าว www.manager.co.th/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น